วิเคราะห์เบื้องลึก ชนวนเหตุอาณาจักร FTX
1 min read
วิเคราะห์เบื้องลึก ชนวนเหตุอาณาจักร FTX ล่มสลาย คุยแบบเล่าง่ายๆ กับกูรูบล็อกเชน
ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่าน นับเป็นอีกช่วงเวลาที่เลวร้ายของตลาดคริปโต ที่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของราคาเหรียญที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง แต่เป็นความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมโดยรวม ที่อาจเรียกว่าเป็นวิกฤติศรัทธาเลยก็ว่าได้ จากเหตุการณ์ช็อกโลกกับการล่มสลายของ FTX กระดานเทรดคริปโตยักษ์ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก จากการเผชิญปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนนำมาสู่การยื่นขอล้มละลายภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ชนวนเหตุที่ทำให้ธุรกิจยักษ์ใหญ่เงินขาดมือมหาศาลคืออะไร หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ตลาดคริปโตจบแล้วหรือยัง?
ไทยรัฐออนไลน์ จึงได้ชวน คุณธรรมลักษณ์ สิงหพันธ์ (The Pleb) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง ContributionDAO สตาร์ทอัพด้าน Web3 ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการบล็อกเชนมาตั้งแต่ปี 2016 และก่อตั้ง Tech Talent Community ของประเทศไทย มาพูดคุยและวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ FTX และมุมมองของโลกบล็อกเชนที่นอกเหนือจากมิติของการลงทุนกัน
คุณธรรมลักษณ์ เล่าว่า ก่อนที่ Sam Bankman-Fried (SBF) จะก่อตั้ง FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซี เขาได้ก่อตั้งกองทุน Quantitative Trading ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นใช้กลยุทธ์ในการเทรด หรือลงทุนด้วยการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ที่ชื่อว่า Alameda Research ขึ้นมาเมื่อปี 2017 โดยเขาใช้เวลาในการเติบโตประมาณ 2 ปีเท่านั้น จนกระทั่งมีทั้งเงินทุน และความน่าเชื่อถือประมาณหนึ่ง
ต่อมาปี 2019 ถือเป็นปีที่กระแสของ Centralize Exchange กำลังมา และ SBF ก็มองว่าโมเดลธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตค่อนข้างสูง จึงได้ก่อตั้ง FTX ขึ้นมา และในปีเดียวกันนั้นเองที่ Changpeng Zhao (CZ) ได้ก่อตั้ง Binance เช่นกัน
สำหรับนักลงทุนชุดแรกของ FTX ต่างเป็นนักลงทุนที่อยู่ในโลกของ Web2 มาก่อน แต่ด้วยความต้องการที่จะเข้ามาในโลกของ Web3 ต่อมา SBF จึงต้องไประดมทุนกับ Binance ด้วย
หลังจากที่ก่อตั้ง FTX แล้ว ปี 2020 เป็นต้นไปถือเป็นปีแห่งการสร้างระบบนิเวศ เพื่อให้อาณาจักรของ SBF เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการเข้าไปให้การสนับสนุนทั้ง Terra Solona โปรเจกต์ DeFi และ NFT น้อยใหญ่ต่างๆ อาจมองได้ว่าตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมาเป็นยุคที่เฟื่องฟูของ FTX มากๆ พร้อมทั้งมีแบรนด์ย่อยในหลากหลายประเทศทั่วโลก ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของคนทั้งโลกที่มีต่อ SBF มากขึ้นไปอีก จนกระทั่ง FTX ได้มีการออกโทเคนที่ชื่อว่า FTT ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้คนแห่กันไปซื้อ FTT ซึ่งแทบทุกประเทศมีคนเข้าไปถือหมด
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> อัตราดอกเบี้ยนโยบายคืออะไร หากปรับขึ้น-ลง มีผลอย่างไร